วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2551

แมลง

แมลง เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในคลาส Insecta เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและมีการแพร่กระจายกว้างขวางที่สุดในไฟลัม Arthropoda และเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมด โดยมีมากกว่า ๘๐๐,๐๐๐ สปีชี่ส์ ซึ่งมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆรวมกัน ประมาณไว้ว่า มีแมลงปอ ๕,๐๐๐ ชนิด ตั๊กแตนตำข้าว ๒,๐๐๐ ชนิด ผีเสื้อ ๑๗๐,๐๐๐ ชนิด แมลงวัน ๑๒๐,๐๐๐ ชนิด ผึ้งและมด ๑๑๐,๐๐๐ ชนิด ตัวขนาดเล็ก เมื่อเติบโตสมบูรณ์เต็มที่ร่างกายแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง มีขา ๖ ขา มีหนวด ๑ คู่ มีปีก ๑ หรือ ๒ คู่ หรืออาจไม่มีก็ได้ เช่น แมลงวัน แมลงสาบ แมลงปอ บางทีเรียกเพี้ยนเป็นแมง แมลงหลายชนิดมีอวัยวะรับรู้สัมผัสที่ดีมาก บางครั้งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าประสาทสัมผัสของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ผึ้งสามารถเห็นแสงสีในสเปกตรัมของรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต และผีเสื้อกลางคืนตัวผู้มีระบบประสาทรับกลิ่นที่สามารถรับกลิ่นของฟีโรโมนจากตัวเมียได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตรแมลงสังคมอย่างมดและผึ้ง เป็นตัวอย่างที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดของสัตว์สังคม พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ โดยแบ่งหน้าที่การงานกันอย่างเป็นระบบและเรียบร้อย บางครั้งอาณาจักรเช่นนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น superorganism (จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี) แมลงถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อ ๕๐๐ ล้านปีก่อน และด้วยจำนวนชนิดมากถึงสามในสี่ของสัตว์มีชีวิตบนโลก กอปรกับการวิวัฒนาการและพัฒนาการมาอย่างยาวนาน จึงมีผู้กล่าวกันว่า แมลงจะเป็นแหล่งอาหารโปรตีนของมนุษย์เมื่อประชากรมนุษย์บนโลกมนุษย์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกแล้ว ในอนาคตสัตว์ที่อาจจะมีชีวิตรอดเหลืออยู่ได้ชนิดหนึ่งก็คือแมลงนั่นเอง แมลงส่วนใหญ่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ มีเพียงส่วนน้อยที่มีเป็นอันตรายหรือมีโทษ แมลงที่มีประโยชน์อาจจำแนกได้ ๕ กลุ่ม คือ แมลงที่ให้ผลผลิต แมลงที่ ใช้เป็นอาหาร แมลงผสมเกสร แมลงที่ช่วยสร้างเสริมความอุดมสมบูรณ์ของดิน แมลงตัวห้ำและ แมลงตัวเบียน โลกของแมลงเป็นโลกที่อยู่ในส่วนที่ยังลึกลับมากๆ เปรียบดัง "ผู้กำความลับแห่งพงไพร" การเดินสำรวจในแต่ละครั้งพบแมลงหลายชนิด บางชนิดมีลักษณะที่แปลกมากๆ บางชนิดเคยเห็นเป็นครั้งแรก และส่วนใหญ่ไม่รู้จัก คือไม่มีความสามารถในการจำแนกชนิด ดังนั้นในห้องสมุดภาพแมลง คำบรรยายใต้ภาพส่วนใหญ่จึงมีแต่คำว่า รอการตรวจสอบชนิด แต่ถึงแม้นว่าจะจำแนกไม่ได้ก็ยังอยากจะตีพิมพ์รูปเอาไว้ เพื่ออาจจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่มา http://www.thungyai.org

ไม่มีความคิดเห็น: